ปกติทีมงานของเราก็จะใช้รถของผมนี้แหละขับไปเที่ยว ขับไปทำงานกัน ซึ่งแน่นอนครับขับตอนกลางวันแดดร้อนมาก รถผมเองก็ติดฟิล์มนะ แต่ว่าถ้าแสงสาดมาจากด้านหน้าก็ร้อน แล้วของที่วางบนแผงควบคุมด้านหน้าก็ร้อน บางอันก็ละลาย ส่วนด้านข้างก็พอถูไถครับเพราะติดทึบ พอควร แต่ปัญหาตามมาคือ เวลากลางคืนถ้าเจอสถานที่มืด ๆ อย่างเช่นอาคารจอดรถที่ไม่มีแสง หรือต้องถอยจอดเข้าซอง ผมต้องเปิดกระจกลง และมีคนแนะนำว่าให้ไปเปลี่ยนฟิล์มใหม่ เพราะของเราน่าจะเสื่อมสภาพแล้ว เปลี่ยนได้แล้วแก อ่อลืมบอกไปทีมงานเราบางทีก็ต้องเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวในรถ ซึ่งปัจจุบันเวลาเปลี่ยนก็ต้องแอบ ๆ ไปจอดที่ลับตาหน่อย เพราะฟิล์มเดิมคนด้านนอกยังเห็นอยู่ นั้นแหละครับทั้งหลายทั้งมวลเลยตัดสินใจเปลี่ยนฟิล์มดีกว่า #ของมันต้องมี สินะ
“น้องหมาผมบ่นร้อนมาก เห่าบอกให้ผมเปลี่ยนฟิล์มใหม่ได้แล้ว “
ผมเองก็มีงบในการทำรถอยู่ประมาณนึง แล้วก็ค้น ๆ ดูใน Facebook ดูใน Youtube และถามคนอื่น ๆ ดู ก็ตกลงเลือกแบรนด์ Cardinal ซึ่งมีรถกว่าแสนคันที่ติดตั้ง แล้วก็ทำมาเป็นสิบปีแล้ว โดยผมไปติดตั้งที่ศูนย์ตรงเรียบด่วนรามอินทรา ศูนย์จะอยู่เลย CDC ไป นิดหน่อย แต่ตอนที่ไปผมเองยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกว่าจะเอาฟิล์มแบบไหน ก็จะขอไปดูก่อน
ผมถึงร้านตามที่นัดหมายกับเจ้าหน้าที่ก็แนะนำให้ข้อมูลเกี่ยวกับฟิล์มแบบต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่หลายแบบ ซึ่ง ดูด้วยตาเปล่าแล้วแยกไม่ออกครับ ก็ขอให้ทางเข้าอธิบายรายละเอียดค่าของฟิล์มต่าง ๆ ให้ฟังหน่อย ก็ได้ความรู้เพิ่มเกี่ยวกับการดูฟิล์มดังนี้
- Visible Light Transmission ค่าแสงส่องผ่าน เป็นค่า % ที่แสงส่งผ่านได้ ซึ่ง ถ้าเป็นกระจกบานหน้าก็ควรอยู่ที่ราว ๆ 25-32% ทั้งนี้เพื่อทัศนวิสัยในการขับรถทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ถ้าบานที่ไม่ได้ต้องการแสงมากนัก เช่นที่นั่งหลังและบานหลังสุด แสงส่องผ่าน 4-5% ก็เพียงพอแล้ว
- Visible Light Reflection ค่าแสงสะท้อน โดยส่วนใหญ่ค่านี้จะอยู่ราว ๆ 7 -11% เพราะถ้าสะท้อนมาก ก็จะเป็นอันตรายกับรถคันอื่น เช่นการเอารถไปจอดหน้าบ้านคนอื่น แสงจะไปแยกตาเขาได้ ซึ่งยิ่งฟิล์มเข้มค่าแสงสะท้อนก็จะน้อยลง
- UV rejection การป้องกันรังสี UV อันนี้สำคัญมาก เพราะรังสียูวีนี้ทำร้ายผิว ยิ่งคนขับรถเที่ยวไกล ๆ เวลาแสงแดดโดนแขน หรือเข้ามาในรถ นอกจากจะร้อนแล้ว ผิวเสียอีก หน้าก็พังได้ ฟิล์มดี ๆ ก็จะป้องกันได้ 99% – 100%
- Total Solar Energy Rejection ค่าการป้องความร้อนรวมจากแสงแดด ที่จะสาดเข้ามา ซึ่งฟิล์มที่ดี ค่าป้องกันความร้อนต้องสูง 58-67% ซึ่งจากที่ลองการป้องกันได้ครึ่งนึงเอามือไปวางให้โดนแดด ก็ไม่ร้อนแล้วครับ
- Infrared rejection การป้องกันรังสีอินฟาเรด ถ้าเป็นรุ่น top จะกันได้ 99% แต่ถ้ารุ่นทั่วไปคือ 76% ตรงนี้แหละเป็นจุดที่แตกต่างชัดเจนของฟิล์มที่มีประสิทธิภาพสูง
จากข้อมูลด้านบนผมก็ดู เสปคแล้วนำมาพิจารณาว่าจะเลือกรุ่นไหนดี ฟิล์ม CARDINAL TUXEDO นั้นมีหลายรุ่น ซึ่งเป็นฟิล์มเซรามิกทั้งหมด ถ้ารุ่น top อย่าง Cardinal Seven ราคาก็ 22,000 บาท จริงอยู่ค่าประสิทธิภาพต่าง ๆ มัน max มาก ค่าป้องกันรังสี IR นี่ปาไป 99% ค่ากันความร้อนก็สูงมากถึง 71% แต่กระเป๋าเงินนะสิ งั้นข้ามไป จะมีรุ่นรอง top ชื่อว่า Tuxedo plus ราคาราว ๆ 17,000- 18,500 รองลงมาอีกก็เป็น Tuxedo pure Ceramic ราคา 14,000 บาท ซึ่งผมมองไปที่รถ eco car ของผม แล้วคิดในใจว่า ลูกครับ รุ่นธรรมดาพอเนอะ ผมก็เลยตกลงว่าเอารุ่น Tuxedo pure Ceramicรุ่นธรรมดานี้แหละ เพราะอยู่ในงบพอดี สำหรับราคาที่เขาบอกมานี้คือ รวมค่าลอกฟิล์มเก่าออกแล้วนะครับบแต่ถ้าใครรถใหม่ ๆ ยังไม่ติดฟิล์มมาก่อนหน้านี้ ก็จะราคาถูกกว่านี้นิดหน่อย
รายละเอียดของ Tuxedo pure Ceramic
พอตกลงเลือกแล้วส่งกุญแจรถให้พนักงาน พนักงานก็อบฆ่าเชื้อรถ เนื่องจากช่วงไปทำ covid-19 ก็เริ่มระบาดแล้ว พนักงานติดตั้งจะได้ปลอดภัยถ้าหากมีเชื้อ จากนั้นพนักงานก็จัดแจงนำรถไปจอดในห้อง Lab ติดฟิล์มโดยเฉพาะ ซึ่งห้อง Lab นี้จะค่อนข้างมีกลิ่น ฉะนั้น ถ้าไม่ได้อยากถ่ายรูปอะไรก็ดูห่าง ๆ ผ่านกระจกก็ได้ครับ ในห้องก็จะมีเครื่องฟอกอากาศเครื่องใหญ่มากในนั้นด้วย
ห้องที่จะติดฟิล์มนั้นจะต้องเป็นห้องระบบปิด เพื่อป้องกันฝุ่นจากภายนอกอาคารไม่งั้นแล้วฝุ่นเหล่านี้จะเข้ามายังฟิล์มที่เราติดได้
ผมได้แอบเข้าไปดูเพราะตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยรู้มาก่อนเข้าติดฟิล์มกันยังไง ถ้าวิธีที่เห็นคือ ลอกของเก่าออก แล้วก็เอาฟิล์มไปแปะด้านบนกระจกแต่ละด้าน ตอนแรกก็สงสัยว่าเอะ แปะแบบมือถือแปะด้านนอกหรือนี่ แต่ถามพี่เขาแล้วเขาบอกว่าขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนทำแบบวัดเฉย ๆ ซึ่งวัดเสร็จแล้ว ก็จะไปตัด แล้วเอามาแปะด้านในอีกครั้ง
การทำนี่ต้องใช้ฝีมืออย่างมาก ทั้งการตัดและการแปะ อาจจะมีบางคนคิดว่า เออ ซื้อฟิล์มม้วน ๆ มาแปะ ก็ได้นิ แต่เดี๋ยวก่อนมันไม่ง่ายขนาดนั้น สำหรับผมแล้ว ซื้อฟิล์มมาติดมือถือเอง ยังยากเลย ฉะนั้นให้มืออาชีพเขาทำเถอะครับ
เวลาในการทำก็ราว ๆ 2-3 ชั่วโมงนะครับ แต่ของผมจองคิวก่อน และช่วงที่คิวต่อไปยังไม่มี พนักงานก็เลยรุมกับหลายคน ฉะนั้นถ้าเพื่อน ๆ ไปแล้วเห็นทำกันแค่ 2 คนก็ไม่ต้องแปลกใจนะครับ ของผมคือไวมาก 1 ชั่วโมงนิด ๆ ก็เรียบร้อยแล้ว
ระหว่างที่รอก็มีห้องรับรองแอร์เย็นฉ่ำ แน่นอนมีเครื่องฟอกอากาศให้เหมือนเดิม รายละเอียดเล็ก ๆที่เขาใส่ใจอันนี้ชอบ แล้วก็มีขนม ลูกอมชากาแฟ ให้บริการฟรี
พอรถเสร็จแล้ว พนักงานก็นำรถไป โซน QC เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย พร้อมให้คำแนะนำ พอสรุปคำแนะนำได้ดังนี้
- ช่วง 2 อาทิตย์ อย่าเพิ่งเอาอะไรไปแปะ ตรงกระจกหน้ารถ เช่น GPS กล้องติดรถรถยนต์ เพื่อให้ฟิล์มมันคงสภาพ ติดแน่นก่อน
- อย่าเพิ่งเลื่อนกระจำขึ้นลง 7 วัน โดยเขาจะมี sticker แปะไว้กันเราเผลอ
- แต่ถ้าจะไปล้างรถแนะนำว่าควรพ้น 3 วัน ไปก่อน และถ้าเป็นไปได้ ด้านในรถอย่าเอาน้ำยาเคมีไปเช็ด เพราะว่า มันจะไปกัดฟิล์ม ทำให้อายุการใช้งานลดน้อยลง
เสร็จแล้วจ่ายค่าบริการ และเซ็นใบรับรถพนักงานก็ให้ใบรับประกันมา ซึ่งเขาบอกว่าประกัน 15 ปี ตู้หู 15 ปี รถ ecocar ผมคันนี้จะอยู่ถึงไหมนะ
เสร็จแล้วผมก็ขับรถออกไป แล้วก็เห็นพนักงาน ก็เลยเปิดกระจกคุยกับ Sale ครั้งสุดท้าย ฮะ เปิดประจก นี่แหละครับความจำปลาทองของผม เขาบอกว่าอย่าเพิ่งกดเลื่อนกระจก 7 วัน นี่ยังไม่ได้ออกจากศูนย์ ก็กดซะแล้ว พนักงานเล่นเอา สติกเกอร์มาติดเพิ่ม เอาแบบ ไม่ให้กดได้กันเลย
ออกมาจอดดูกับแสงปกติด้านนอก จะเห็นว่ามันทึบกว่าของเก่าค่อนข้างมาก ดูสิครับไม่เห็นอะไรในรถเลย แต่พอนั่งในรถ มองออกไปก็เห็นตามปกติ นี่เป็นคุณสมบัติของ ฟิล์มแบบเซรามิค ที่ด้านนอกดูทึบ แต่ด้านในยังเห็นอยู่ ถ้าเปรียบเทียบกับของเดิมแล้วเห็นความต่างได้ชัดเจนเลยครับ รถผมดู hiso ดูเป็นส่วนตัวมาก
หลังจากนั้นผมก็ขับรถไปลองโดนแดดจัด ๆ แล้วเอามืออังดู เฮ้ย ไม่ร้อนเลย คนที่นั่งข้าง ๆ โดนแดดสาดมาถึงขา ก็ไม่ร้อน อันนี้ผ่านครับ ส่วนการมองทัศวิสัยชัดเจนดี ซึ่งด้านหน้าผมเลือกเป็น TUX60 คือด้านหน้าทึบระดับกลาง แต่ทึบกว่าฟิล์มทั่ว ๆ ไป ก็ขับรถแล้วสบายตา ไม่มีแสดงสะท้อนว๊าบจากวัตถุต่าง ๆ เข้ามาเพราะฟิล์มเซรามิคช่วยตัดแสงเอาไว้
สำหรับตอนช่วงบ่ายแก่ ๆ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ขับรถลำบากที่สุดเพราะแสงจะแยงตาพอดี ฟิล์มที่ใช้สามารถลดแสงโดยตรงจากด้วยอาทิตย์ได้ โดยสามารถเหลือบเห็นพระอาทิตย์ได้ โดยไม่แยงตามากนัก
แต่อย่างไรก็ตามไม่ควรมองพระอาทิตย์นะครับ ยังไงเพื่อความสบายตา การใช้ม่านบังแดดด้านบนก็ยังจำเป็นอยู่ครับ เพราะต้องไม่ลืมว่า ด้านหน้าของเราคือ รุ่น 60 ซึ่งทึบน้อยกว่าด้านหลัง สำหรับมองไปด้านหลังตัว 80 นั้นทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม แสงอาทิตย์ทำอะไรไม่ได้ชิลมาก
สำหรับตอนกลางกลางคืน ถ้ามองจากด้านนอกคือ มืดครับ มองไม่เห็นด้านในรถเลย ต่อให้เปิดไฟด้านไหนก็สลัว ๆ มาก แต่พอเข้าไปข้างในกลับสว่างปกติ ขนาดว่าไม่เปิดไฟหน้ารถก็ยังสามารถมองเห็นข้างหน้าได้ ส่วนถ้าเปิดไฟหน้ารถ ก็ยิ่งชัดเจน
ส่วนกระจกบานข้าง ที่เมื่อก่อนผมมีปัญหาเวลาจะถอยจอดที่มืด ๆ จะต้องเปิดบ้านกระจกข้าง เพื่อจะให้เห็นชัด ๆ แต่ตอนนี้ก็ไม่เป็นปัญหาแล้วครับ ไม่น่าเชื่อว่ากระจกทึบขนาดนี้ ข้างในจะชัดได้ขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ถ้ามองด้านนอกตอนกลางคืนนี่ก็มืดมากๆ
อีกรูปคือจอดรถในร่ม ก็เห็นว่ารถ Eco car ของผมดูหรู ๆ ขึ้นมาทันทีด้วยฟิล์ม เซรามิค Cardinal
สรุป ฟิล์มยี่ห้อ CARDINAL ดีมั้ย?
- ฟิล์มรุ่นที่ผมติดมองข้างนอกมืดดำมืด เป็นส่วนตัวมาก เหมาะกับการมีกิ๊ก เอ่ยไม่ใช่ แต่ทึบขนาดนี้ก็ไม่ผิดกฏหมายนะครับ ถึงแม้จะมืดด้านนอก แต่ด้านในคือมองเห็นชัดเจนกว่าที่คิดมาก มองเห็นได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
- ปกติผมจะวางอุปกรณ์ของเกือบจะมีค่าในรถ บางทีมันก็แบกไปไม่ได้เนอะ ปกติก็จะเอาผ้ามาบัง ๆ หรือต้องไปซ้อนไว้ที่นั้นที่นี่ แต่มีฟิล์มนี้แล้ว ถ้าเอาของวางไว้เบาะหลัง มองไม่เห็นของเลยครับ เพราะด้านหลังผมติดเป็น TUX80 จะเข้ม ๆ หน่อย
- ฟิล์มไม่มีส่วนผสมของปรอท ทำให้ดำสนิทจากด้านนอก แต่ สัญญาณ GPS วิทยุ สัญญาณโทรศัพท์ ก็ไม่เป็นปัญหา
- แอร์เย็นเร็วขึ้น ประหยัดน้ำมันไปอีก เพราะฟิล์มเซรามิก ทำให้ความร้อนหายไปมากกว่าครึ่ง ทำให้อายุการใช้งานของอุปกรณ์ต่าง ๆ ในรถยาวนานขึ้น
- มีการรับประกันยาวนานมาก 15 ปี แหนะ โดยเขาจะมีเครื่องทดสอบความซีดความเสื่อมของฟิล์มตลอดระยะเวลาการรับประกัน
จบแล้วครับ กับการรีวิวฟิล์มติดรถยนต์กันร้อน ด้วยงบ 14,000 .- สนใจยังไงก็ลองไปถามราคากับทางร้านได้ที่
Website : http://www.cardinalfilm.com/cardinaltuxedo
Facebook : https://www.facebook.com/cardinalfilmthailand/