#ไปทะเลกันดีกว่า 🎵
วันนี้พวกเรามาที่พัทยาครับ ก็แน่นอนละมาพัทยาทั้งที่ก็ต้องมาเล่นน้ำทะเล แต่ไม่ได้มานั่งเล่นริมหาดหรือก่อกองทรายแต่อย่างใด แต่วันนี้เราจะมานั่งเรือยอร์ชกัน ซึ่งจุดหมายของเราคือ เกาะครามครับ
ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่ไม่ไกลจากฝั่งมากนัก เป็นบริเวณทะเลที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว เพราะถ้าจะไปก็ต้องนั่งเรือไปเท่านั้น ซึ่งจะมา Walk-in เดินดุ่ม ๆข้ามไปเองไม่หาข้อมูลไม่ติดต่อเอเจนซี่คุณอาจจะโดนโขกราคาแพง ๆ ฉะนั้นมี 2 ทางเลือกครับ ติดต่อเรือล่วงหน้า หรือ ให้เอเจนซี่จัดการให้
ปกติเราเวลาไปไหนจะวางแผนกันเองติดต่อกันเอง แต่การจะติดต่อเรือยอร์ช เองมันไม่ง่ายนะครับ อาจจะต้องวางเงินประกันกันวุ่นวาย ซึ่งพวกเราตัดสินใจเลือกให้ TechTravel ซึ่งเป็น ทัวร์เอเจนซี่ ที่ชำนาญการจัดทริปทางน้ำมาก ๆ เขาจะจัดการทุกสิ่งอย่างในการไปเที่ยว ตั้งแต่เดินทางจนถึงส่งกลับ โดยทริปเป็นแบบ Exclusive ส่วนตัวเฉพาะพวกเรา จะกลุ่มเล็กกลุ่มใหญ่ได้ทั้งนั้น บอกความต้องการเขา เขาจะออกแบบการเดินทางให้คุณเอง
หลังจากที่พวกเราติดต่อกับทาง Tech Travel ล่วงหน้าให้จัดการทริป ทะเลเกาะครามของเรา วันเดินทางเราก็โดยสารรถตู้ของทาง Tech Travel ที่เตรียมไว้ 🚍เรานั่งรถตู้แบบชิล ๆ มาลงที่ Ocean marina yacht club Pattaya ซึ่งที่นี่เป็นท่าเรือสุดหรู มีเรือสวย ๆ รวย ๆ ดูดีมากมาย จอดกันเพียบ ซึ่งผมต้องขออภัยที่ไม่สามารถถ่ายรูปมาเผยแพร่ได้ เพราะว่าเขาห้ามถ่ายภาพครับ จะถ่ายได้เฉพาะบนเรือของเราเท่านั้น แต่เดี๋ยวจะไม่เห็นภาพความยิ่งใหญ่ของท่าเรือนี้ ผมได้นำภาพจากเพจของ Ocean marina yacht club Pattaya มาลงให้แทนครับ
สำหรับส่วนของการเตรียมของนั้น ก็ทั่ว ๆ ไปครับ
- เสื้อผ้าที่เปียดน้ำได้
- ครีมกันแดด
- กล้อง
- แว่นตา
- หมวก
- ส่วนรองเท้านั้น ไม่ต้องเตรียมนะครับ ลากแตะมาได้เลย เพราะขึ้นเรือเขาก็ให้ถอดอยู่ดีครับ ฉะนั้นไม่ต้องเอารองเท้าหรูมา และไม่ต้องใส่ถุงเท้ามานะครับ
และเนื่องจากทริปนี้มีหลายคน ก็เลยตัดสินใจใช้เรือ 2 ลำครับ โดยเป็นเรือคนละชนิดกันเพราะจะถ่ายรูปหลาย ๆ บรรยากาศ ได้แก่เรือ
- Motor Catamaran MC520 เป็นเรือแบบไม่มีใบเรือแต่จะดีตรงที่มีดาดฟ้าเรือ
- Blue Lagoon 470 ซึ่งเป็นทรงแบบเรือใบ สวยหรูหรา แต่จุได้น้อยกว่านิดนึง
ทั้ง 2 ลำ ด้านในมีทั้งห้องนอนและห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ส่วนเตรียมอาหารพร้อม เรียกได้ว่าสามารถอยู่เป็นวัน ๆ ได้สบาย
#เรือออกจากท่าเรือ
ช่วงนี้จะเป็นช่วงวัดใจครับ ว่าใครจะเมาเรือหรือไม่ เพราะการออกจากฝั่งนั้นคลื่นจะค่อนข้างแรงกว่าการที่ไปอยู่ไกล ๆ ทะเลแล้ว เพราะว่าเรือต้องผ่ากระแสน้ำออกไปอาจจะมีกระโดดกระเด้งบ้าง จับเรือให้ดี ๆ ก็แล้วกัน เทคนิคการไม่เมาเรือแล้วอยากมีความสุขกับการเที่ยวคือ มองไปไกล ๆ ครับ อย่าดูมือถือ อย่าอ่านหนังสือ และถ้าไม่ไหวจริง ๆ กินยาแก่เมาก่อนขึ้นเรือสัก 30 นาทีครับ ซึ่งยานี้มันจะทำให้คุณง่วงนะ ฉะนั้น คุณต้องมองไกล ดีที่สุด จะได้เที่ยวแบบเต็มอิ่ม
พอผ่านสัก 15 นาที เรืออยู่กลางทะเลแล้วตอนนี้คือเริ่มสบายแล้วครับ ตอนนี้ผมก็เริ่มสำรวจเรือMotor Catamaran MC520 ที่ผมนั่ง
โดยเรือจะมีทั้งหมด 3 ชั้น
- ชั้นบนสุดดาดฟ้าเรือ ซึ่งเป็นที่นั่งของคนขับเรือ และมีที่นั่งพักผ่อนของผู้โดยสาร ยื่นออกไปด้านหลังเรือ
- ชั้นปกติ ด้านหน้าจะเป็น Desk ยื่นออกไปด้านหน้าจะมีที่นั่งแบบตะข่ายให้เรานั่ง ให้ลมมันตีขึ้นมาเย็น ๆ บริเวณนี้พื้นทางเดินทำมาอย่างดี ไม่พบว่ามีใครลื่นบนเรือ แม้กว่าตัวจะเปียกน้ำก็ตาม ด้านหลังเรือจะเป็นบริวเณที่นั่งกินอาหารและเตาบาบีคิว รวมทั้งบันไดเรือที่จะลงสู่น้ำ สำหรับด้านในตะเป็นห้องแอร์และมีเคาเตอร์เตรียมอาหาร โดยมีที่นั่งพร้อมโต๊ะขนาดใหญ่ 2 จุดด้วยกัน
- ชั้นล่างสุด เป็นห้องนอน ห้องอาบน้ำ และห้องส้วม
ชั้นดาดฟ้าเรือ
ด้านบนสุดจะเป็นที่กัปตันใช้คุมเรือ โดยจะมีที่นั่งอยู่รอบ ๆ
ระบบการนำทางเรือที่ทันสมัย มีกล้องสำหรับตรวจสอบบริเวณรอบ ๆเรือด้วยนะ แต่ทันสมัยอย่างไร ก็ยังมีความเชื่อแบบไทย ๆ สังเกตได้จากผ้าสามสีที่พวงมาลัยของเรือ
ดาดฟ้าเรือด้านบนสามารถนั่งรับลมชมวิว หรือจะนอนเอกขเนกบนดาดฟ้าเรือที่ยื่นออกไปด้านหลังได้ ซึ่งจากจุดนี้ทำให้เราเห็นวิวแบบ 360องศา
ชั้นปกติของเรือ
ชั้นนี้มีพื้นที่เยอะที่สุดเพราะเป็นส่วนหลักของเรือ เริ่มจากหัวเรือจะมีที่นั่งให้ถ่ายรูป ให้ชมวิว เป็นมุมมมหาชนที่ใคร ๆ ก็ต้องถ่าย พวกเราก็เช่นกัน
ด้านหัวเรือจะมีเปลตาข่ายที่ยื่นออกไป โดยด่านล่างก็จะเป็นพื้นทะเลไม่มีอะไรกั้น ทำให้เวลาไปนอนเล่นตรงนี้จะเย็นสบายมาก
ทางเดินด้านข้างของเรือ สามารถเดินสวนกันได้ พื้นทางเดินเรือไม่ลื่นแม้ว่าเท้าเราเปียก และมีราวให้จับตลอดทาง เพื่อความมั่นใจว่าจะไม่ตกเรือ
พิสูจน์ให้เห็นว่าเดินสวนกันได้ 2 คน แต่ถ้าใครถ่ายรูปก็จะเดินไปไม่ได้นะครับ เต็มพอดี
ภายในห้องรับรองด้านในเอาไว้หลบแดด ที่นี่นั่งรวมกันราว 20 ที่นั่ง มีแอร์เย็น ๆ ให้ผ่อนคลาย พร้อมเสียงเพลงตามที่เราชื่นชอบ
เตา BBQ ที่อยู่บริเวณท้ายเรือสามารถนำอาหารมาอุ่นให้ร้อนหรือปรุงให้สุกได้
ด้านหลังจะมีโต๊ะอาหารอีกชุด และท้ายเรือจะเป็นที่เก็บเรือเล็กและอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยจะมีบันไดสำหรับลงไปในน้ำได้สะดวกยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องปีนหรือกระโดดลงไปเอง
นั่งโง่ ๆ ท้ายเรือ ปล่อยใจไปกับสายลม มองฟ้าสวย ๆ น้ำสีคราม นั่งเพลิน ๆ คือหลับได้เลยครับ
ชั้นล่างสุด
เป็นชั้นของห้องน้ำ ห้องส้วมและห้องนอน โดยลำนี้จะมี ห้องน้ำให้ 2 ห้อง และมีห้องนอน 1 ห้อง
อาหาร
หลังจากสำรวจห้องเสร็จแล้ว อาหารเขาก็เริ่มวางแล้ว โดยจะมีทั้งอาหารกินเล่นเป็นแบบคานาเป้ และอาหารมื้อใหญ่แบบกินเป็นเรื่องเป็นราว โดยอาหารจะมีวางเอาไว้ หิวเมื่อไหร่ก็กินได้เลย มีทั้ง กุ้ง หอย ปู ปลา ครบเลย อะ มีกั้งและไก่ด้วย แต่ละชิ้นคือใหญ่ ๆ ทั้งนั้น ถ้าเกิดอันไหนมันเย็นไป ในเรือก็มีเตาเอาครับไปอบก่อนกินได้ รวมทั้งน้ำทั้งน้ำอัดลมน้ำผลไม้ น้ำเปล่า หรือผลไม้ล้างปาก เขาก็เตรียมไว้ให้แบบไม่ขาดเลยละ
กิจกรรมให้อาหารลิง
เรือเดินทางมาสักพักใหญ่ก็จะมาหยุดที่เกาะเป็ด ผมมองไปไหนหว่าเป็ดไม่มีสักตัว มีแต่ลิงเต็มไปหมด จนฝรั่งนิยมเรียกเกาะนี้ว่าเกาะลิง โดย เราอยู่บนเรือสามารถโยนผลไม้ลงไปให้กับลิง โดยลิงที่นี้จะว่ายน้ำได้ เขาจะว่ายมาเก็บผลไม้จากเราไปกิน โดยผลไม้ที่ทาง Tech Travel เตรียมมาก็จะเป็นผลไม้ที่หั่นแล้ว น้องลิงกินง่ายกินสะดวก
อ่าวบริเวณเกาะคราม
การมาเกาะครามครั้งนี้เราจะไม่ได้ไปเหยียบบนฝั่งนะครับ แต่เราจะได้อยู่บนเรือและทำกิจกรรมบนพื้นทะเลแทน แค่นี้ก็ฟินแล้วละครับ สำหรับเรือทั้ง 2 ลำจะลอยอยู่บริเวณเกาะครามฝั่งทิศเหนือครับ
#กิจกรรม
สำหรับกิจกรรมจะมีให้เลือกมากมายเช่น
- ตกปลา
- ดำน้ำ
- พายเรือ
- ว่านน้ำเล่นรอบ ๆ
- Banana Boat
- โซฟาน้ำ
- ขับสกูตเตอร์
เพียบครับ อยากเล่นอะไรขอให้บอกเขา เขาจัดให้ได้
ผมอาจจะโชคร้ายนิดนึงไปดำน้ำตอนฟ้าสลัวพอดี ภาพใต้น้ำเลยไม่ค่อยสวยนัก ถ้าจะให้สวยต้องดำตอนแดดแรง ๆ ครับ
กิจกรรมการตกปลาก็มีให้ทำครับ ได้ปลากินจริง ๆ ด้วยนะ พอได้มาก็มาทำกินกันต่อเลย แต่ผมไม่ได้ตกกับเขาด้วยนะ อันนี้ภาพมือของเพื่อน ๆที่ร่วมทริป
เนื่องจากบริเวณนี้คลื่นไม่ได้แรงมากนักทำให้การเล่นกิจกรรมทางน้ำทำได้สะดวก แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องสวมเสื้อชูชีพกันตลอดนะครับถ้าต้องลงน้ำ
ถ้าอยากสนุกสุด ๆ ต้องอันนี้เลย Banana Boat เรือกล้วยที่จะพาเราล่องไปตามท้องทะเลด้วยความเร็วสูง และสุดท้ายคือเหวี่ยงเราตกทะเลนั้นเอง
ขับสกูตเตอร์กลางทะเลมันฟินมากครับ ปกติถ้าไปขับบนชายหาด ก็อาจจะเจอคนเยอะเยอะ แต่ที่นี่โล่ง ๆ มีแต่พวกเราครับ
ซึ่งถ้าเปียกน้ำทะเลก็ไม่ต้องกังวลว่าจะอาบน้ำที่ไหน ไม่ต้องรอไปถึงฝั่งครับ ที่เรือมีน้ำจืดสำหรับไว้อาบอย่างเพียงพอ โดยจะอาบล้างตัวบริเวณท้ายเรือ หรือจะเข้าไปอาบตอนที่เล่นกิจกรรมทุกอย่างจบแล้วก่อนกลับที่ห้องอาบน้ำในเรือก็ได้ ที่นี่มีผ้าเช็ดตัวพร้อมครับไม่ต้องขนไปเอง < นี่ขนมาไงไม่นึกว่าเขาจะมีให้ 55 >
บนเรือจะมีพนักงานคอยบริการเรา ทั้งการอำนวยความสะดวกด้านอาหาร หรือด้านอุปกรณ์กิจกรรมทางน้ำ เรียกได้ว่าไปจะมาทริปกับทางTech Travel ไปแต่ตัว เสื้อผ้า กล้องไปพอ อย่างอื่นไม่ต้องเตรียมไป
ถึงแม้ว่า อ่าวนี้ไม่ได้มีเพียงแต่ทริปของพวกเรา มีเรือลำอื่น ๆ ด้วย แต่เขาก็จอดห่าง ๆ กัน ฉะนั้นก็ถือว่าเป็นส่วนตัวมาก ๆ ไม่วุ่นวายเหมือนกับบนฝั่ง จากภาพจะเห็นเรือที่จอดไกลๆ ซึ่งเวลามีกิจกรรมก็ไม่รบกวนกันสักเท่าไหร่คัรบ
ขากลับเราได้ชมความงามของท้องฟ้าที่พระอาทิตย์กำลังจะตก แต่ว่าเราไม่ได้เห็นพระอาทิตย์เป็นดวง ๆ ใหญ่ ๆนะ พอดีวันนี้ฝ้าปิด แต่ไม่เป็นไรครับ บรรยากาศเงียบ ๆ ชมแสงที่จะลับขอบฟ้า พร้อมกับให้ลมพัดตีหน้าเบา ๆ ก่อนกลับขึ้นฝั่งแค่นี้ก็ฟินแล้วครับ
ส่งถึงฝั่งสู่สวัสดิภาพ จบแล้วครับสำหรับทริป ที่ใช้เวลาบนเรือ ราว 5 ชั่วโมง เต็มอิ่ม ฟิน เล่นสนุก
สำหรับท่านที่อยากมีทริปสักครั้งในชีวิต Exclusive แบบพวกเรา ก็มีให้เลือกทั้งแบบครึ่งวันเต็มวัน หรือจะค้างบนเรือก็มีครับ สามารถติดต่อไปได้ที่
FB : www.facebook.com/Techtraveltha…
Line : @techtravel http://lin.ee/kuiAM31
Website : https://www.techtravel.co.th
#TechTravel #TechTravelThailand #Exclusivetour